BANGKOK GRAPHIC

งานออกแบบโลโก้ใหม่ของ Jodrell Bank ได้รับแรงบันดาลใจจากกล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ Johnson Banks ได้ออกแบบเอกลักษณ์ทางภาพใหม่สำหรับหอดูดาว หอดูดาว

ซึ่งเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกเปิดดำเนินการมาแล้ว 75 ปี และปัจจุบันใช้เป็นสถาบันวิจัยโดยมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ เป็นที่ตั้งของกล้องโทรทรรศน์หลายตัว โดยมีกล้องโทรทรรศน์โลเวลล์ ซึ่งใช้ในการติดตามยานสำรวจอวกาศและดาวเทียม ซึ่งเป็นหนึ่งในกล้องโทรทรรศน์ประเภทนี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

แม้ Jodrell Bank มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่ยังขาดเอกลักษณ์ทางภาพที่เหมาะสมหรือวิธีเชื่อมโยงงานของตนกับสาธารณะ ซึ่งเป็นที่ที่ Johnson Banks เข้ามา สตูดิโอถูกดึงดูดไปที่ Lovell Telescope ทันที แต่บอกว่าต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการทดลองเพื่อทำความเข้าใจ วิธีรวมสิ่งนี้เข้ากับการสร้างแบรนด์ของหอดูดาว

การเพิ่มการเคลื่อนไหวบางอย่างช่วยแก้ปัญหา โดยสร้างเครื่องหมายคำที่โค้งเป็นรูปชาม และสามารถหมุนและเอียงได้เช่นเดียวกับกล้องโทรทรรศน์ ความโค้งของกล้องโทรทรรศน์ยังเป็นพื้นฐานสำหรับชุดอุปกรณ์กราฟิก ‘พอร์ทัล’ ซึ่งสามารถใช้เป็นส่วนตัดหรือซ้อนทับบนภาพถ่ายได้ จอห์นสัน แบงส์ จับคู่สิ่งนี้กับสิ่งที่เรียกว่า “ตัวหนังสือสไตล์ยุค 60 ที่เฉียบขาดและเฉียบขาด ซึ่งย้อนกลับไปสู่ยุคของการแข่งขันในอวกาศ” สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด สตูดิโอได้ยกเครื่องน้ำเสียงของ Jodrell Bank โดยฉลองให้กับพื้นที่อันกว้างใหญ่อันน่าเกรงขาม แม้จะมีติดตลกอยู่บ้าง แต่ก็เพื่อทำให้ตัวงานออกแบบดูเป็นมิตรมากยิ่งขึ้น

พวกมันคาดเดาสัมผัสได้ บางที แต่ก็ยากที่จะไม่หลงเสน่ห์พวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจับคู่กับเครื่องหมายคำรูปชามของ Johnson Banks และเอกลักษณ์ที่เหลือ ซึ่งยังคงความเป็นแฟนพันธุ์แท้ของคนที่ชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับยานอวกาศ

“ข้าวเหนียวมะม่วง” Soft Power ที่สร้างพลังมหาศาลให้อาหารไทย”

ออกแบบ Web design

คำว่า “Soft Power” กลายเป็นหนึ่งคำที่ทรงอิทธิพลอย่างมากในยุคนี้ ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า “Soft Power” คืออะไร?
.
หากจะอธิบายง่าย ๆ “Soft Power” คือการสร้างความดึงดูด สร้างการมีส่วนร่วมให้กับผู้คน โดยไม่ต้องถูกบังคับ หรือเรียกอีกอย่างว่าเต็มใจที่จะเปิดรับนั่นเอง
โดย “Soft Power” ที่เราเห็นในปัจจุบันมักจะถูกส่งผ่านวัฒนธรรม เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม แน่นอนว่าแต่ละประเทศล้วนมี Soft Power เป็นของตัวเอง เช่น เกาหลีใต้ เราได้เห็นอุตสาหกรรมบันเทิง ทั้งในเรื่องซีรีส์ เพลง ที่โด่งดังไปทั่วโลก รวมถึงอาหารที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อเรื่องก็กลายมาเป็นการสร้างความรับรู้ เกิดความนิยม

.
ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย “มิลลิ” ศิลปินไทยได้ขึ้นแสดงโชว์ในงานเทศกาลดนตรีระดับโลก Coachella Valley Music and Arts Festival) ที่สหรัฐฯ โดยโชว์ของเธอมีความน่าสนใจอย่างมาก และเป็นที่พูดถึงของผู้คนเป็นอย่างมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการกินข้าวเหนียวมะม่วงบนเวทีการแสดง
.
สิ่งที่ตามมาหลังเหตุการณ์นี้ คือข้าวเหนียวมะม่วงกลายเป็นได้รับความนิยมในพริบตา เห็นได้จากร้านข้าวเหนียวมะม่วงอย่างร้านแม่วารี ที่ขายดิบขายดี มีไรเดอร์มารอรับออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งจนทางร้านถึงกับบอกว่าขายแทบไม่ทัน และต้องปิดการรับสั่งซื้อชั่วคราว
.
เมื่อพูดถึงข้าวเหนียวมะม่วง พบว่าเคยติดอยู่ใน 50 อันดับขนมอร่อยทั่วโลก จาก CNN มาแล้วในปี 2561 โดย Jen Rose Smith เชฟขนมหวานชื่อดังที่ร่วมกับทีมงาน CNN ซึ่งเหตุผลที่เลือกข้าวเหนียวมะม่วง เพราะเป็นเมนูที่มีความเข้ากันจากข้าวเหนียวมูน กินคู่กับมะม่วงสุก โรยหน้าด้วยงาคั่ว เหมาะกับอากาศที่เมืองไทยเป็นอย่างยิ่ง
.
ด้วยกระแสที่กำลังมาทำให้มีข่าวออกมาว่ากรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) เตรียมเสนอชื่อ “ข้าวเหนียวมะม่วง” กับยูเนสโกเป็นวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษย์ หรือ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ซึ่งเรื่องนี้จำเป็นต้องมีการเก็บรวบรวมข้อมูลก่อนที่จะเสนอต่อไป
.
สิ่งที่เราเห็นจากปรากฎการณ์ทั้ง “ข้าวเหนียวมะม่วง” คือทำให้พ่อค้าแม่ค้าขายดิบขายดี โดยไม่ต้องใช้เงินไปซื้อโฆษณา แต่เป็นการบอกผ่านศิลปินเท่านั้น กลายเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกวิธีหนึ่ง อย่างไรก็ตาม “Soft Power” จะไปสุดทางได้ต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐฯ ที่จะช่วยส่งเสริมเพิ่มช่องทางในการรับรู้ มองเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ทำให้ผู้คนทั่วโลกหันมาสนใจ

ออกแบบทรงขนน้องแมว ให้ขนใหม่ขึ้นแบบสุขภาพดี

รับออกแบบ website และออกแบบGarphic

อากาศร้อนๆ แบบนี้คงเริ่มมีหลายบ้านที่พฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงเริ่มผิดปกติไป อย่างเช่นเจ้าทูนหัวตัวแสบของแอดที่ร้อยวันพันปีจะเห็นอยู่ติดบ้านกับเขาบ้าง(ปกติเข้ามากินข้าว กินน้ำ กับทำธุระส่วนตัวแล้วก็สะบัดก้นออกจากบ้านไป แต่ช่วงนี้เหมือนจะเข้ามาหลับอุตุให้ลูบหัวลูบพุงอยู่บ่อยๆ ซึ่งแอดก็ขอเดาไปว่าเจ้าเหมียวตัวแสบคงจะร้อนจนขี้เกียจออกไปเที่ยวเล่นแน่ๆ

เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้ทาง BKK จึงปิ้งไอเดียคิดวิธีดับร้อนให้กับน้องแมวที่สุดแสนจะเบสิกอย่างการตัดขนแมว ที่เหล่าทาสแมวคนอื่นๆ เขาพาน้องไปตัดขนแมวกัน ซึ่งหลังจากดูแล้วส่วนตัวคิดว่าคงต้องเอาทรงพวกนี้ไปปรึกษาเจ้าเหมียวป้องกันการผิดใจกันก่อนน่าจะดีกว่า 🙂

เทรนตัดขนแมวที่ว่าจะเท่ห์หรือน่ารักแค่ไหน มาดูกัน

ส่วนทาสแมวคนอื่นๆ เห็นแล้วจะว่ายังไงก็อย่าลืมถามความเห็นทูนหัวกันด้วย เพราะไม่งั้นอาจมีสภาพหมอไม่รับเย็บน๊ะจ๊ะ 

5 วิธีเลือกโทนสีงานออกแบบให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

ออกแบบ graphic

ในปัจจุบันมีหลายงานที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ โดยเฉพาะในสือโซเชียลมีเดีย ที่ต้องการงานออกแบบที่มีคุณภาพ และดึงดูดใจคนอ่านหรือผู้พบเห็น นอกจากองค์ประกอบของภาพและตัวละครหลักในภาพมีความสำคัญและ การใช้สียังเป็นเสมือนด่านแรกที่ช่วยดึงดูดงานสายตาคนอ่านต่องานออกแบบได้อีกด้วย

นอกจากการเล่นสีจะเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งแล้ว การรู้จักวิธีการใช้สีอย่างชาญฉลาดยังช่วยให้งานออกแบบของคุณได้รับความสนใจอย่างมาก

โทนสีคืออะไร

อย่างที่ทราบกันดีว่า มีโทนสีให้เลือกมากมายในท้องตลาด นอกจาก แม่สี 5 สีแล้ว ยังสามารถแตกแขนงออไปได้อีกมากมาย 

จากเทคโนโลยีการผสมสีต่าง ๆ ในปัจจุบัน คุณอาจพบชื่อของโทนสีแปลกตากันออกไป เช่น เอิร์ธโทน พาสเทล หรือแม้แต่การมิกซ์แอนด์แมชสีต่าง ๆ ให้เข้ากันเป็นองค์ประกอบเดียวกัน

ความสำคัญของโทนสีคือการให้ความรู้สึกงานออกแบบในมุมมองที่แตกต่าง ทันทีที่เราใช้โทนสีใด ก็สามารถสื่ออารมณ์และความหมายของภาพนั้นได้ทันที เมื่อนำความสำคัญของโทนสีมารวมกับงานออกแบบในสื่อต่าง ๆ จะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น เพราะจะเป็นการเกี่ยวข้องผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่ต้องการถ่ายทอดออกไป

5 วิธีเลือกโทนสีให้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจ

ในแต่ละโทนสีมีความหมายและความสำคัญที่แตกต่างกันออกไป หากคุณเลือกโทนสีเดียวกันในผลิตภัณฑ์หรืองานออกแบบของคุณ ก็อาจทำให้ไม่น่าสนใจมากเท่าที่ควร

ยิ่งไปกว่านั้น การใส่ใจกลุ่มเป้าหมายที่จะเป็นผู้เสพสื่อ จะช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้โทนสีได้ดีขึ้น ดังนั้น คุณสามารถเริ่มจากการเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการนำเสนองานออกแบบ จากนั้นจึงเลือกการใช้โทนสีด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

1.เลือกโทนสีสำหรับวัยทำงาน

สำหรับวิธีการเลือกโทนสีของบุคคลในวัยทำงาน คุณสามารถเลือกโทนสีที่ช่วยคุมโทน และไม่โดดเด่นจนเกินไป โดยเน้นการเล่นสีจากอ่อนไปจนถึงสีเข้ม 

เนื่องจากบุคคลในวัยทำงาน ไม่ต้องการความเจิดจรัสในการเล่นโทนสีที่มากเกินไปอีกทั้งยังต้องการไอเดียสำหรับความเป็นมืออาชีพ  ดังนั้น หากงานออกแบบของคุณสามารถคุมโทนได้ภายในไม่กี่สี ก็จะช่วยดึงดูดความสนใจต่อบุคคลในวัยนี้ได้

2.โทนสีสำหรับเด็กจบใหม่

ในมุมมองของเด็กจบใหม่ สีสันที่หลากหลายเท่านั้นที่จะช่วยหยุดสายตาของบุคคลวัยนี้ได้ เพราะเป็นวัยที่ต้องการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ทำให้ความคิดของผู้คนวัยนี้กำลังดำเนินการอย่างไม่มีขอบเขต

การเลือกหลากหลายสีแต่มีความเข้ากัน จะช่วยเพิ่มความสนใจให้กับบุคคลกลุ่มนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น การเลือกหลากหลายโทนสี แต่มีจุดเด่นของสีใดสีหนึ่งขึ้นมา จะยิ่งทำให้เกิดความสะดุดตากับคนกลุ่มนี้มากขึ้น

3.ผู้บริโภคสินค้าออนไลน์

โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้บริโภคสินค้าออนไลน์ FUN88 คาสิโน มักอยู่บ้านเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน พ่อบ้าน หรืออาชีพฟรีแลนซ์ ดังนั้น เพื่อเป็นการดึงดูดสายตาของบุคคลเหล่านี้ การใช้โทนหลักสีเดียวถือว่าน่าสนใจไม่น้อย 

กล่าวคือ บุคคลกลุ่มนี้ไม่ต้องการมองเห็นสิ่งที่วุ่นวายนัก การมีโทนสีเดียวจะช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากกว่า คุณอาจลองใช้โทนสีน้ำเงินเข้ม ส้มเข้ม หรือแดงเข้มเท่านั้น แต่มีโทนสีรองที่อ่อนลงตามสีหลัก ด้วยการทำเช่นนี้จะช่วยดึงดูดสายตากลุ่มนี้อย่างมาก

4.วันสูงอายุ

โทนสีเรียบง่ายและไม่ซับซ้อนใด ๆ รวมถึงไม่จำเป็นต้องมีการเล่นสีมาก โดยโทนสีที่ได้รับความสนใจกับคนกลุ่มนี้ได้แก่ สีฟ้าอ่อ สีพื้น หรือสีไม้ 

เพียงใช้กลุ่มโทนสีที่เรียบง่ายก็สามารถตอบโจทย์บุคคลกลุ่มนี้ได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น องค์ประกอบของงานออกแบบอาจจะไม่เน้นรายละเอียดหรือตัวหนังสือที่ซับซ้อนมากเกินไป หากแต่คุณสามารถใช้สีอ่อน ๆ เป็นการดึงดูสายตาได้

5.เจ้าของธุรกิจ SME

วัยหนึ่งที่ชื่นชอบไอเดียและความคิดใหม่ ๆ โดยความรู้สึกพื้นฐานที่ต้องการเริ่มต้นกิจการเล็ก ๆ อย่างร้านกาแฟ คุณสามารถเลือกโทนสีที่ไม่โดดออกจากกันมากนัก เช่น น้ำตาล ชมพู ครีม ฟ้า ที่ไม่ควรเกินสีหลักทั้งสี่สีนี้ 

คุณยังสามารถเลือกใช้โทนหลักสองสีเพื่อเป็นการสลับสีในงานออกแบบของคุณได้เช่นกัน และอย่าลืมว่า บุคคลในกลุ่มนี้ แม้จะชอบการค้นหาไอเดียใหม่ ๆ แต่สำหรับงานออกแบบ การใช้สีมากเกินไปจะไม่ทำให้สะดุดตาได้เลย

เคล็ดลับการใช้โทนสีกับงานออกแบบเกมคาสิโนออนไลน์ 

สำหรับการออกแบบเกมคาสิโนใน Fun88 คุณสามารถเลือกโทนสีที่สะดุดตาผู้เล่นได้จากสีหลักเพียงไม่กี่สีเท่านั้น โดยสามารถเลือกตามเกมที่ให้บริการได้ดังต่อไปนี้

  • สล็อต งานออกแบบมักจะเน้นโทนสีฉูดฉาดตามธีมของแต่ละเกม และให้ล้อกันกับตัวละครหลักของเกมอีกด้วย
  • เกมคาสิโน เกมในคาสิโนโดยส่วนมากมักเป็นเกมไพ่ การเน้นโทนสีดำแดงก็ถือเป็นไอเดียที่น่าสนใจสำหรับงานออกแบบประเภทนี้เช่นกัน
  • กีฬา ด้วยฉากหลังและแดชบอร์ดการนำเสนอคะแนน จำเป็นต้องใช้โทนสีที่สะอาดตาและสามารถมองเห็นตัวเลขสกอร์ของคะแนนได้อย่างง่าย

จะเห็นว่ากลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม มีรสนิยมและความชอบไม่เหมือนกัน เมื่อคุณเข้าใจความต้องการของกลุ่มนั้นอย่างถ่องแท้ จะช่วยให้สามารถเลือกโทนสีที่ต้องการได้ไม่ยาก ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณรักในงานออกแบบ การค้นหาโทนสีใหม่ ๆ ที่โดนใจผู้บริโภค ก็ยังช่วยให้คุณเกิดไอเดียใหม่ ๆ ในการคิดงานออกแบบที่น่าสนใจได้ในอนาคต

การออกแบบอัตลักษณ์ชุมชน ด้วยเครื่องมือ 4DNA.

ออกแบบ graphic

เครื่องมือ 4 DNA ถูกคิดค้นโดย ท่าน อาจารย์ ผศ.เอกพงศ์ ตรีตรง พอดีทางคนเขียนได้มีโอกาสสัมภาษณ์ในงานวิจัย จึงนำมาสรุปเป็นความรู้ ได้คือ

ความหมาย 4DNA.

ตามธรรมชาติ ทุกสิ่งบนโลกล้วนมีอัตลักษณ์ มนุษย์ต่างมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นฝาแฝดกันก็ตาม อาทิเช่น ความเชื่อ สภาพจิตใจ ลักษณะเฉพาะทาง DNA จิตวิญาณ ทัศนคติ ลายนิ้วมือ ซึ่งเกิดจากการบ่มเพาะจากทุกเรื่องทุกมิติ ทั้งครอบครัว สังคม การศึกษา มีอัตลักษณ์มาตั้งแต่เกิด

โครงการต่างๆที่มีคุณภาพ ที่เกิดขึ้น ด้วยการประดิษฐ์และ คิดค้น ก็เช่นกัน ควรมีองค์ประกอบแห่งอัตลักษณ์ เกิดจากบริบทที่ต่างกัน ควรคิดให้ครบทิศ รอบด้าน รอบคอบ โดยมีเครื่องมือ 4DNA ซึ่งเป็นเครื่องมือในการสำรวจปัจจัยรอบทิศ โดยการสร้างรหัสเฉพาะ เพื่อใช้ในทางสร้างสรรค์ สู่การกำหนดเป็นนโยบายแบบมีเอกภาพ เช่น การออกแบบโลโก้ สัญลักษณ์ แบรนด์ กำหนดรูปแบบทั้งระบบ จากความรู้รอบด้าน

ให้ออกมาเป็นรูปธรรม เพื่อค้นหา “ใจกลางแห่งความคิด”

เครื่องมือ 4 DNA สำคัญต่อการรวบรวมทั้งปัจจัยลบและ ปัจจัยบวก เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนมากที่สุด นักออกแบบและผู้ลงทุนสามารถนำเครื่องมือ 4 DNA ไปใช้ สามารถบ่มเพาะหาตัวแปรหลัก เพื่อนำไปใช้ออกแบบและพัฒนาโครงการ ร่วมกันอย่างครอบคลุมทุกมิติโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการออกแบบจะได้รับผลจากศาสตร์นี้มากที่สุด ผลงานสร้างสรรค์จะเกิดขึ้นอย่างมีเอกภาพ มีคุณค่า เกิดลักษณะ

เฉพาะเหมือน DNA มนุษย์นั่นเอง

วงกลมตามหลักแนวคิด 4 DNA

การแบ่งโทนสี 2 โทนสี (บนและล่าง) คือ

– ด้านบน ไล่จากส้มไปเหลือง จนเป็นสีขาว ความหมายคือ ความหวังใจ แง่บวก เรื่องดีดี สดใส ร่างเริง สะท้อนความสุข ข้อดี และความดี

– ด้านล่าง ไล่จากดำไปเทาเข้ม จนเป็นเทาอ่อนที่สุด สะท้อนความคิดแง่ลบ ร้าย คลุมเครือ อุปสรรคปัญหา ผิด

กฎหมาย ข้อเสีย ความโสมม

จุดกลมเล็กๆ บนภาพ คือ ความดี และสิ่งดีที่ค่อยๆเกิดขึ้น อาจมองไม่เห็น แต่ค่อยๆ ปรากฏ ซึ่งสะท้อนว่า แม้มีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นก็มักจะมีเรื่องดีเกิดขึ้นเสมอ พอรวมกันเป็นวงกลม ก็จะเป็นบทสะท้อนความเป็น 4DNA นำมาใช้ในการค้นหาหลักคิดอัตลักษณ์เฉพาะตน ด้วยเครื่องมือ ทั้งเส้น สี และวิธีต่างๆ เพื่อความรอบคอบ รอบทิศ ลดข้อเสียเพิ่มจุดดีชัดเจน ตรงเป้าหมายสู่ความสำเร็จยั่งยืน

เทคนิคการระดมสมอง นำมาประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมือในการคิดเชิงวิเคราะห์ เพื่อแก้ไขปัญหา โดยการใช้กระบวนการกลุ่มเพื่อให้ได้แนวทางหลากหลาย นำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก่อนจะระดมสมองต้องเริ่มที่การกำหนดประเด็น และวัตถุประสงค์ของการสังเคราะห์ โดยให้ปฏิบัติตามขั้น ทำให้โครงร่างสังเคราะห์ชัดเจน

ดื่มชา สร้างสมาธิได้

สร้างสมาธิง่ายๆ ด้วยตัวเอง แก้เครียดและยังสร้างสรรค์ แค่ดื่ม ชา สร้างสมาธิ

ดื่มชาสร้างสมาธิ

ในท่ามกลางสถาวะแวดล้อมภายนอกปัจจุบัน ทั้งปัญหาสถานการณ์โรคระบาดโควิด และฝุ่น PM ที่ยังมีอยู่ ซึ่งแค่ปัญหาที่เราควบคุมไม่ได้ ก็เยอะแล้ว อีกทั้งยังเจอปัญหาที่เกิดจากตัวเราส่วนบุคคลนานัปการ สภาพเศรษฐกิจ ปัญหาต่างๆ ล้วนเป็นบ่อเกิดปัจจัยแห่งความเครียด 

ทางออกที่ง่ายและทรงพลัง อีกทั้งสร้างได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายถึงมีก็ไม่สูงในการใช้ตัวช่วย สำหรับการลดความเครียก นั่นคือ การเข้าสู่พะวังแห่งสมาธิ การสร้างสมาธินอกจากทำให้จิตใจสงบ มันยังสามารถสร้างกลไกแห่งการสร้างสรรค์และการแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ในบทความนี้ เราจะแนะนำเครื่องมือการสร้างภาวะแห่งสมาธิดังกล่าว ได้เหมือนกดปุ่ม เพียงแคดื่ม นั่นคือ “ชา(มัทชะ)-สมาธิ” สายพันธุ์ที่นำเข้าและหาดื่มได้ และมีสารที่มีส่วนช่วยสร้างสมาธิ สายพันธุ์อย่าง Okumidori 

ตัว Okumidori เอง แบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ แต่เรามาทำความรู้จัก Okumidori กันก่อน คือ

โอคุมิโดริ รสชาติออกแนวธรรมชาติ อุมามินำ กลิ่นหอมชาอ่อนๆปนกลิ่นหญ้า ยังมีผงสากคออยู่เล็กน้อย ไม่มีรสหวาน เหมาะกับชงบางทานคู่กับขนมรสอ่อน มีสารอ่อนๆ ที่ช่วยสร้างสมาธิขณะดื่ม เริ่มจากสายพันธุ์ Uji คือ

มัจฉะสายพันธุ์เดี่ยว พันธุ์ Okumidori โอคุมิโดริ จาก เกียวโต ฟาร์มของครอบครัวเล็กๆใน Ujitawara เก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ผลิ ท่านกลางสภาพแวดล้อมหุบเขารำไร ทำให้ชาที่ไร่นี้มีความเขียวชุ่มพิเศษกว่าไร่อื่น รวมถึงกรรมวิธีการผลิตชาเฉพาะตัวอีกด้วย

และสายพันธุ์ Yame :  (ชื่อเล่น Okuyame) สายพันธุ์ที่ราคาไม่แพง สีสวยมาก อยู่ในเกณฑ์ดี สีเข้มไม่เท่าอูจิ แต่ใกล้เคียง ทานแล้วฟินก็มี Okumidori (single origin)นี่แหละ หลังจากที่ได้รับฟีดแบคบางคนไม่ชอบสาหร่ายแบบอูจิๆ บ้าง บางคนชอบนัตตี้ สโมกๆ บ้าง เราก็เลยไปหามาลอง ตัวนี้มาจาก Yame , Fukuoka ซึ่งสไตล์พื้นที่นี้ชอบทำมัจฉะโทนสโมกกี้ๆ ออกมา เราเลยลอง Usucha / กินผงดิบ และ ลาเต้

บอดี้กลาง-ครีม สัมผัสดี อูมามิน้อย-กลาง จุดเด่นๆคือ กลิ่น Smoky nutty ถั่วๆของเค้า ตัวนี้เกรดพิธีต้นๆ ไม่ขม ไม่หืน ไม่เปรี้ยว ไม่เค็มเท่าไหร่ ไม่หวานมากนัก แต่มันปาก จะบอกว่าโทนชาแนวๆขนมถั่วก็ไม่เชิงคะ  ทานเพียวได้หมดชามสบาย addictive มาก ไม่มีความรู้สึกหืนๆสำหรับมัจฉะเกรดพิธีเริ่มต้นเลย

พฤติกรรมผู้บริโภคในมุมมองแบบดิจิทัล

พฤติกรรมผู้บริโภคในมุมมองแบบดิจิทัล

Digitally Born คือ กลุ่มวัยรุ่นที่ใช้อินเทอร์เน็ตที่มีอายุระหว่าง 14-17 ปี เริ่มใช้ อินเทอร์เน็ตตั้งแต่อายุ 9 ปี แต่ด้วยยังไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จกับการใช้จ่าย จึงใช้ดิจิทัลในรูปแบบแชร์ ติดตาม สร้างอัตลักษณ์ตัวเองในโลกออนไลน์ ปรับตัวกับเพื่อนใหม่ได้ง่ายแต่ขณะเดียวกันก็ปฎิเสธเพื่อนเก่า ใหม่ได้ง่ายเช่นกัน หากไม่เข้ากับ Lifestyle การติดตามข่าวสาร มักต้องการอำนาจในการควบคลุมสูง และมีบทบาทกับแหล่งข้อมูลนั้นๆ เช่น การเสพสื่อจาก Youtube ซึ่งผู้ใช้กำหนดได้เองและเป็นผู้ผลิตได้เองในคราวเดียวกัน Video ที่ถูกติดตามจะสร้างความเชื่อมั่นไปต่างกับดารา สำหรับผู้ใช้กลุ่มนี้ 

Evolving Digizen คือ กลุ่มผู้บริโภคที่ใช้อินเทอร์เน็ตที่มีอายุระหว่าง 18-24 ปี ครึ่งหนึ่ง ของกลุ่มนี้ใช้อินเทอร์เน็ตตลอดเวลาผ่านทางสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต ชีวิตประจำวันของวัยรุ่นกลุ่มนี้ จะเริ่มจากการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมูล (Search Engine) และใช้เข้าโซเซียลเน็ตเวิร์ค เพื่อติดตามข่าวสาร หาเพื่อน ตลอดจนสร้างตัวตนและให้คุณค่ากับตรงนั้นพอๆ กับการใช้ชีวิต ในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเริ่มมีอำนาจในการใช้เงินระดับเริ่มต้น แต่ด้วยการโลกออนไลน์เป็นระบบเปิด วิธีการหารายได้จึงไม่จำกัดที่อายุ กลุ่มนี้จะมีวิธีการหารายได้จากพื้นที่เปิดโลกออนไลน์ดังกล่าว มีพฤติกรรมที่เกิดมาพร้อมยุค Google ที่ต้องการทราบอะไรจะมีทักษะในการสืบค้นที่ค่อนข้างดี แต่ขาดการใส่ใจในรายละเอียดข้อมูล หากเป็นรายละเอียดมักหันไปให้ความสนใจที่เป็นภาพเคลื่อนไหวมากกว่า เช่น Yoytube /TikTok 

Progressive Digizen ช่วงอายุที่ 25-34 ปี เป็นกลุ่มที่อยู่ระหว่างยุคเกิดก่อนกับยุคหลังดิจิทัล ทำให้มองเห็นมิติได้ดีกว่าในแง่รอบคอบ วิเคราะห์ได้หากเทียบกับกลุ่ม Digital Native แต่มีความชำนาญน้อยกว่า ในด้านการเข้าถึงเครือข่ายดิจิทัล จะเป็นกลุ่มที่ใช้ดิจิทัลค่อนข้างสมบูรณ์พอกับกลุ่ม Digital Native แต่มีเหตุผลในการใช้

Digital Immigrant เป็นผู้ที่เกิดก่อนยุคดิจิทัล อายุประมาณ 30-60 ปี แต่มีความสนใจและมองเห็นประโยชน์ จึง จะหันมาเรียนรู้ ศึกษาพื้นฐานการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ อย่างไรก็ตามคนกลุ่มนี้ไม่ได้เป็นชาวดิจิทัล โดยกาเนิด หลาย ๆ คนจึงไม่สามารถที่จะก้าวจากโลกใบเดิมได้อย่างเต็มตัว เราจึงเรียกคนกลุ่มนี้ว่า ผู้อพยพสู่โลกดิจิทัล หรือ Digital Immigrant

พฤติกรรมผู้บริโภคในมุมมองแบบดิจิทัล กลุ่มเป้าหมาย การตาดดิจิทัล

อัตลักษณ์ในงานออกแบบ

อัตลักษณ์ในงานออกแบบ

ขั้นตอนและวิธีการถอดอัตลักษณ์มาสู่ผลงานการออกแบบ

1). การจำแนกองค์ประกอบทั้งลบและบวก จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรค

เป็นแผนภูมิในการจำแนกโครงสร้างขององค์กรมีทั้งด้านบวก (จุดแข็งและโอกาส) และด้านลบ (จุดอ่อนและอุปสรรค) มีการแบ่งออกเป็น3ด้าน คือ สิ่งแวดล้อม เศษฐกิจและสังคม

2). กระบวนการเฟ้นหาข้อมูลสู่การลำดับความสำคัญของข้อมูล

มีจุดเน้น จุดเด่น จุดผ่อน จุดเบา เพื่อจำแนกตามน้ำหนักและความสำคัญที่แตกต่างกัน

3). การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อค้นหาประเด็นสำคัญ (key word)

นำข้อมูลมาสรุปแล้วมาดีไซน์เป็นคำเฉพาะที่มีลักษณะเฉพาะของข้อมูลนั้นจนได้เป็นคำนิยามที่ได้ใจความคมคายโดยที่ขนาดของวงกลมสะท้อนถึงความสำคัญจากการระดมสมอง

4). การรวบรวมประเด็นสำคัญสู่การสร้างนิยามของโครงการ

แยกออกเป็น 2 ส่วน คือ

ส่วนเนื้อหา (Content) มองเห็นและสัมผัสได้ เช่น สี ขนาด

ส่วนบทบริบท (Context) สัมพันธ์ทางอ้อม

5). การสร้างนิยามสู่การออกแบบลายเส้น

ออกแบบผ่านทางสัญลักษณ์เพื่อให้ภาพสื่อความหมายเป็น 2 มิติ

6). การคิดค้นรูปแบบของลวดลาย (Pattern) นำภาพ 2 มิติ มาเรียงเป็นลวดลายมีพื้นฐานเป็นภาพ 2 มิติ เป็นต้นแบบ

7). การนำนิยามมาเป็นตัวกำหนดสี (Colors) นำเนื้อหาและบริบทมาขยายผลไปสู่การเลือกคู่สีที่เหมาะสม

8). การออกแบบตราสัญลักษณ์ (Logo) การนำเอาส่วน 1 ของแม่ลายกราฟิกมาออกแบบตราสัญลักษณ์ที่มีลายละเอียดน้อยและจดจำได้ง่าย

9). การออกแบบตัวอักษร (Font) ประมวลผลข้อมูลที่ได้จากแผนภูมิแรก นำจุดเด่นที่น่าสนใจมาออกแบบเป็นตัวอักษร

10). การออกแบบที่นำอัตลักษณ์ มาใช้ในรูปแบบกราฟิกต่างๆเป็นการประมวลผลจากการถอดรหัสทำให้เกิดนิยามลวดลาย สีและการจัดวาง

1). นิยามนำมาสร้างสรรค์เป็นคำคม (Slogan)

2). ลวดลาย (Pattern) ใช้เป็นองค์ประกอบในการออกแบบ

3). สี (Colors) ใช้สีจากการถอดรหัสมาเป็นองค์ประกอบ

4). การจัดวางองค์ประกอบ (Composition) นำอัตลักษณ์มาพัฒนาการออกแบบ 3 มิติ

11). การพัฒนาสู่การออกแบบภาพและการแบบเชิงนโยบาย สร้างอัตลักษณ์จากแนวความคิดส่งเสริมและพัฒนาเมืองเกิดเป็นนวัตกรรม ทำให้มีอัตลักษณ์และเอกภาพ

การรับรู้ภาพ หลักการออกแบบกราฟิก

ออกแบบกราฟิก

Visual Perception Graphic Design

ความหมาย

การรับรู้ (Perception)

หมายถึง การที่มนุษย์นำข้อมูลที่ได้จากความรู้สึกสัมผัส (Sensation) ซึ่งเป็นข้อมูลดิบ (Raw Data) จากประสาทสัมผัสทั้ง 5 อันประกอบด้วย ตา หู จมูก ลิ้น และกายสัมผัส มาจำแนก แยกแยะ คัดเลือก วิเคราะห์ด้วยกระบวนการทำงานของสมอง แล้วแปลสิ่งที่ได้ออกเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่มีความหมายเพื่อนำไปใช้ในการเรียนรู้ต่อไป (แสงเดือน ทวีสิน, 2545)

ลักษณะสำคัญของการรับรู้

ลักษณะที่สำคัญของการรับรู้มี 6 ประการ คือ

1. ต้องมีพื้นฐานข้อมูลหรือความรู้ในเรื่องนั้นมาก่อน (Knowledge Based) หรือถ้าไม่มีความรู้ อย่างน้อยก็ต้องมีประสบการณ์เดิมในเรื่องนั้นอยู่บ้าง

2. จะต้องประกอบด้วยข้อวินิจฉัย (Inferential) ในขั้นตอนของกระบวนการรับรู้ ทั้งนี้เพราะในการรับรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง มนุษย์ไม่สามารถรับข้อมูลทุกชนิดในเรื่องนั้นพร้อมกันได้ ดังนั้นจึงต้องอาศัยวิธีการวินิจฉัย โดยการตั้งสมมติฐานหรือปะติดปะต่อเรื่องต่าง ๆ เข้าด้วยกันเพื่อให้การรับรู้ในสิ่งนั้นเกิดความสมบูรณ์มากที่สุด

3. จะต้องมีความสามารถในการแยกแยะ (Categorical) ลักษณะหรือคุณสมบัติที่สำคัญของข้อมูลนั้นได้อย่างถูกต้อง ซึ่งในลักษณะนี้จะต้องอาศัยความจำจากประสบการณ์เดิมมาใช้

4. ลักษณะของการรับรู้จะต้องมีความสัมพันธ์เชื่อมโยง (Relational) ของข้อมูลต่าง ๆ หลายประเภท

5. กระบวนการของการรับรู้จะต้องอาศัยของการดัดแปลง (Adaptive) ข้อมูลจากประสบการณ์เดิมมาใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละเรื่องที่กาลังรับรู้อยู่ในขณะนั้น

6. กระบวนการของการรับรู้มักจะเป็นไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นการทำงานของสมองในการรับรู้ข้อมูลต่างๆ มีการแปลความหมายจากสิ่งที่ได้สัมผัส และเกิดการรับรู้สิ่งเร้านั้นในลักษณะของส่วนรวมที่มีความหมาย

กระบวนการของการรับรู้

กระบวนการของการรับรู้จะต้องประกอบไปด้วยสิ่งเหล่านี้

1. มีสิ่งเร้าที่จะรับเข้าสู่ร่างกายทางประสาทสัมผัสโดยผ่านอวัยวะรับสัมผัสทั้ง 5

2. ประสาทรับสัมผัส รับสิ่งเร้าเข้ามา ซึ่งประสาทสัมผัสและความรู้สึกสัมผัส เช่น หู ตา จมูก ลิ้น ผิวหนัง จะต้องสมบูรณ์พอที่จะสัมผัสสิ่งเร้านั้น และส่งต่อไปยังสมองเพื่อแปลความหมาย

3. การแปลความหมายเกิดจากประสบการณ์เดิมหรือความรู้เดิมเกี่ยวกับสิ่งเร้าที่ได้สัมผัสนั้น เกิดการตอบสนองต่อสิ่งเร้า เป็นพฤติกรรมต่างๆ ขึ้น ดังแผนภูมิประกอบ

องค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อการรับรู้

การรับรู้ที่ดีขึ้นอยู่กับระบบประสาทสัมผัสและสภาวะจิตใจของแต่ละบุคคล ตลอดจนลักษณะของวัตถุที่เราจะรับรู้ดังนี้

1. องค์ประกอบทางด้านตัวบุคคล

2. องค์ประกอบของสิ่งเร้า

3. การรับรู้ผิดพลาด

4. การรับรู้ความคงที่ของวัตถุ

ความหมาย และองค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์

รับงานออกแบบ graphic

ความคิดสร้างสรรค์ คืออะไร

กิลฟอร์ด (Guilford, 1967) อธิบายว่า ความคิดสร้างสรรค์เป็นความสามารถทางสมองที่คิดได้กว้างไกลหลายทิศทาง หรือเรียกว่า ลักษณะการคิดอเนกนัย หรือการคิดแบบกระจาย (divergent thinking) กล่าวคือ เมื่อมีเนื้อหาหรือข้อมูลผ่านเข้ามาในการรับรู้ ผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์จะสามารถคิดตอบสนองได้หลากหลายทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ลักษณะการคิดแบบอเนกนัยนี้เป็นลักษณะการคิดอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้ (Torrance, 1965)

1. ความคิดริเริ่ม (Originality)

เป็นลักษณะความคิดแปลกใหม่ แตกต่างจากความคิดธรรมดาและไม่ซ้ำกับที่มีอยู่ หรือ

เรียกว่า Wild Idea เป็นความคิดที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง และสังคม ความคิดริเริ่มอาจเกิดจากการนำเอาความรู้เดิมมาคิดดัดแปลง และประยุกต์ให้เกิดเป็นสิ่งใหม่ขึ้น ความคิดริเริ่มจึงเป็นลักษณะ

ความคิดที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เป็นความคิดที่แปลกแตกต่างจากความคิดเดิม และอาจไม่เคยมีใครนึก

หรือคิดถึงมาก่อน จึงต้องอาศัยลักษณะความกล้าคิดกล้าลอง เพื่อทดสอบความคิดของตน บ่อยครั้งที่

ความคิดริเริ่มจำเป็นต้องอาศัยความคิดจากจินตนาการ หรือเรียกว่าเป็นความคิดจินตนาการประยุกต์

คือไม่ใช้คิดเพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องคิดสร้าง และหาทางทำให้เกิดผลงานด้วย

2. ความคิดคล่องแคล่ว (Fluency)

เป็นปริมาณความคิดไม่ซ้ำกันในเรื่องเดียวกันแบ่งได้ 4 ลักษณะ ได้แก่

2.1 ความคิดคล่องแคล่วทางด้านถ้อยคำ (Word Fluency) เป็นความสามารถใน

การใช้ถ้อยคำอย่างคล่องแคล่วนั่นเอง

2.2 ความคิดคล่องแคล่วทางด้านการโยงสัมพันธ์ (Associational Fluency) เป็น

ความสามารถที่จะคิดหาถ้อยคำที่เหมือนกันหรือคล้ายกันได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ภายในเวลาที่

กำหนด

                        2.3 ความคิดคล่องแคล่วทางด้านการแสดงออก (Expressional Fluency) เป็นความสามารถในการใช้วลีหรือประโยค กล่าวคือ สามารถที่จะนำคำมาเรียงกันอย่างรวดเร็วเพื่อให้ได้ประโยคที่ต้องการ จากการวิจัยพบว่าบุคคลที่มีความคล่องแคล่วทางด้านการแสดงออกสูงจะมีความคิดสร้างสรรค์

                        2.4 ความคิดคล่องแคล่วในการคิด (Ideational Fluency) เป็นความสามารถที่จะคิดสิ่งที่ต้องการภายในเวลาที่กำหนด เช่น ให้คิดหาประโยชน์ของก้อนอิฐมาให้ได้มากที่สุดภายในเวลาที่กำหนดให้ความคิดคล่องในการคิดมีความสำคัญต่อการแก้ปัญหา เพราะในการแก้ปัญหาจะต้องแสวงหาคำตอบหรือวิธีแก้หลายวิธี และต้องนำวิธีการเหล่านั้นมาทดลองจนกว่าจะพบวิธีการที่ถูกต้องตามที่ต้องการ

            3. ความคิดยืดหยุ่น (Flexibility)

เป็นความสามารถของบุคคลในการคิดหาคาตอบได้หลายประเภท หลายทิศทาง ไม่ซ้ำแบบ

แบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้

                        3.1 ความคิดยืดหยุ่นที่เกิดขึ้นทันที (Spontaneous Flexibility) เป็นความสามารถที่จะพยายามคิดให้หลายอย่างอย่างอิสระ

                        3.2 ความคิดยืดหยุ่นทางการดัดแปลง (Adaptive Flexibility) เป็นความสามารถในการดัดแปลงความรู้ หรือประสบการณ์ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์หลายๆ ด้าน ซึ่งมีประโยชน์ต่อการแก้ปัญหา คนที่มีความคิดยืดหยุ่นจะคิดได้ไม่ซ้ำกัน ซึ่งจะเป็นตัวเสริมให้ความคิดคล่อง มีความแปลกแตกต่างออกไปหลีกเลี่ยงการซ้ำซ้อน หรือเพิ่มคุณภาพความคิดให้มากขึ้นด้วยการจัดเป็นหมวดหมู่และหลักเกณฑ์ยิ่งขึ้น

4. ความคิดละเอียดลออ (Elaboration)

 เป็นความสามารถที่จะให้รายละเอียดหรือตกแต่งเพื่อให้มีความสมบูรณ์ หรือปรับปรุง หรือ

พัฒนาสิ่งที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

inline : พิสิฐ ตั้งพรประเสริฐ