BANGKOK GRAPHIC

ความหมายของ อินเทอร์เน็ต internet

ความหมายของ อินเทอร์เน็ต internet

อินเตอร์เน็ต (internet)

ในปัจุจบันอินเตอร์เน็ต (internet) นับว่าเป็นสื่อประเภทหนึ่งที่เริ่มได้รับความนิยมในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการประชาสัมพันธ์จึงถือว่าเป้นสื่อสมัยใหม่สุดที่เริ่มใช้กัน  

อินเตอร์เน็ต คืออะไร

อินเตอร์เน็ต (internet) หรือ Inter-connecting Network คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดยักษ์ที่เชื่อมต่อกันทั่วโลก โดยมีมาตรฐานการรับส่งข้อมูลระหว่างกันเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องสามารถรับส่งข้อมูล ในรูปแบบต่างๆ เช่น ตัวอักษร ภาพและเสียงได้ รวมทั้งสามารถค้นหาข้อมูลจากที่ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว อินเตอร์เน็ตมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และมีการปรับปรุงอยู่ตลอดเวลาตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปทั้งยังขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนที่เป็นผู้ใช้ของอินเตอร์เน็ตอีกด้วย ผู้ใช้บางคนอาจมองว่าเป็นแหล่งข้อมูลบันเทิงมหาศาลในเรื่องต่างๆ เช่น รายการภาพยนตร์ การเลือกซื้อสินค้า โปรแกรมการท่องเที่ยวต่างๆ บางคนมองว่าเป็นห้องสมุดอีเล็คทรอนิคส์ขนาดใหญ่ ทุกสาขาวิชา ไม่ว่าจะเป้นทางด้านศิลปะ วิทยาศาสตร์ กฎหมาย สังคมศาสตร์   บางคนอาจมองว่าอินเตอร์เน็ตเป็นเครือข่ายที่ให้เข้าไปใช้งานคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นจากระยะไกลได้ พร้อมกับรับส่งข้อความจากผู้อื่นผ่านทางจดหมายอีเล็คทรอนิคหรือ E-mail ได้ด้วย ก่อนที่เครือข่ายอินเตอร์เน็ตจะมีลักษณะเป็นใยแมงมุมยักษ์จนกระทั้งทุกวันนี้ ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 (พ.ศ. 1969) ซึ่งถือเป็นปีแห่งการเริ่มต้นในการสร้างเครือข่ายอินเตอร์เน็ตนี้ โดนถือกำเนิดขึ้นมาในหน่อยงานวิจัยขั้นสูง (Advanced Research Projects Agency) หรือเรียกย่อๆว่า ARPA ในสังกัดกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา โดยในขั้นต้นเป็นเพียงเตรือข่ายทดลอง ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนงานด้านการทหาร ซึ่งเป็นผลพวงมาจากสงครามเย็นที่่ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ระหว่างค่ายสังคมนิยม และค่ายเสรีประชาธิปไตร   สำหรับประเทศไทย อินเตอร์เน็ตเริ่มเข้ามาใน พ.ศ. 2530 โดยมีสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) เป็นผู้เริ่มดำเนินการ ต่อมาใน พ.ศ. 2534 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงนำเข้ามาใช้ทำให้ขยายวงผุ้ใช้บริการออกไปอีก จนกระทั้ง พ.ศ. 2536 มหาวิทยาลัยอื่นๆ เริ่มนำอินเตอร์เน็ตเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นๆ จึงทำให้มีผู้ที่รู้จักอินเตอร์เน็ตกว่า 5,000 คนและเพิ่มขึ้นเป็นหลายๆหมื่นถึงแสนคนในปัจจุบัน การขยายตัวของผู้ใช้มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องใน ค.ศ. 2000 มีผู้ใช้ทั่วโลกถึงประมาณ 500 ล้านคนรวมทั้งพัฒนาการของเทคโนโลยีเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว จึงทำให้มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ   อินเตอร์เน็ตเป้นเครือข่ายคอมพิวเตอ์ที่เชื่อมโยงกันทั่วโลกโดยเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างประเทศทุกประเทศเข้าด้วยกัน ในแต่ละประเทศก็เชื่อมโยงถึงหน่วยงานต่างๆ จำนวนมาก จนในที่สุดเชื่อมโยงถึงตัวบุคคลในองค์กรนั้นๆ ทั้งหมด เครือข่ายคอมพิวเตอร์จึงเสมือนเป็นถนนข้อมูลข่างสารที่เชื่อมโยงถึงกันทั้งหมด ข้อมุลข่าวสารจึงเคลื่อนย้ายไปบนเครือข่ายได้รวดเร็วและจำนวนมาก ซึ่งโดยหลักการแล้วข้อมูลมีลักษณะเป็นสัญญาณทางอินเล็คทรอนิคส์ จึงเคลื่อนที่ได้เร็วเข้ากับแสง ทำให้ระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารทั่วโลกถึงกันทั้งหมดในเวลาที่รวดเร็ว เราเรียกช่องว่างที่มีข้อมูลข่าวสารภายในเครือข่ายคอมพิวเตอร์นี้ว่า ไซเบอร์เปซ (Cyberspaoc) ผู้ใช้สามารถท่องเข้าไปหาข้อมูลข่าวสารต่างๆ หรือส่งข้อมูลข่าวสารเข้าไปในไซเบอร์สเปซได้

เราได้อะไรจากอินเตอร์เน็ต

เมื่ออินเตอร์เน็ตเปรียบเสมือนไซเบอร์สเปซที่กว้างใหญ่ ผู้ใช้แต่ละคนจึงต้องมีบ้านของตนเองอยู่ในไซเบอร์สเปซ บ้านของผู้ใช้จะมีตำแหน่งหรือแอดแดรสเพื่อให้นำส่งข้อมูลข่าวสารได้ถูกต้อง การกำหนดตำแหน่งบ้านบนไซเบอร์สเปซ – อินเตอร์เน็ตทำได้เป็นระบบดีมาก กล่าวคือ เราอาจอยู่ในสังคมเมือง เช่น ประเทศไทย สถาบันการศึกษา ชื่อบ้านของตนที่ประกอบอยู่ในบ้านใหญ่ เช่น ….@gmail.com หมายถึงบ้าน ชื่อหน้า อยู่ในบ้านใหญ่ gmail Account และ.com ตามลำดับ บ้านในไซเบอร์สเปซจึงเสมือนเป็นตำแหน่งที่เชื่อมโยงกันได้แต่การเชื่อมโยงจะเป็นไปตามจินตนาการที่เราเรียกว่า Virtual หรือสิ่งที่สร้างขึ้นให้เสมือนเป็นจริง เมื่อทุกคนมีบ้านแล้ว ก็จะต้องมีตู้จดหมายติดไว้หน้าประตูบ้าน หากจะส่งจดหมายระหว่างกันก็นำเข้ามาเก็บไว้บนตู้จดหมายได้ ระบบการส่งจดหมายนี้จึงเรียกว่า อี-เมล์ (E-mail :Electronic mail) ซึ่งเป็นระบบพื้นฐานง่ายๆ สำหรับการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน การส่งจดหมายกระทำได้ง่ายและรวดเร็วเพราะระบบเชื่อมโยงถึงกันทางสัญญาณไฟฟ้า ดังนั้นเมื่อส่งจดหมายแล้ว ภายในอีกไม่กี่วินาที่จดหมายก็มาถึงปลายทางได้ “โฮมเพจ” บ้านแต่ละหลังในอินเตอร์เน็ต จากจิตนาการของการให้ผู้ใช้แต่ละคนเสมือนมีบ้านของตนเอง จึงเกิดแนวคิดการเชื่อมโยงแต่ละบ้านของตนเอง จึงเกิดแนวคิอดการเชื่อมโยงแต่ละบ้านเข้าด้วยกันบนเครือข่ายข้อมูลที่เรียกว่า WWW-World Wide Wed WWW จึงหมายถึง ข่ายใยแมงมุมครอบคลุมโลก ใยแมงมุมเสมือนการเชื่อมโยงบ้านแต่ละหลังซึ่งมีจำนวนมากเข้าด้วยกัน  

การเข้าสู่อินเตอร์เน็ตในยุคมัลติมีเดีย

การสร้างโฮมเพจได้เน้นเทคโนโลยีมัลติมีเดีย โดยใช้รูปแบบไฮเปอร์เท็กซ์กล่าวคือ ข้อมูลของตนจะเก็บไว้ในรูปแบบสื่อประสม คือ ข้อความ ภาพ เสียง วีดีโอ ผู้ใช้สามารถเข้าไปเยี่ยมโฮมเพจใดก็ได้เพื่อขอดูข้อมูลที่วางไว้ การเรียกเข้าใช้โปรแกรมที่เชื่อมต่อจากพีซีเข้าสู่อินเตอร์เน็ตที่เรียกว่า บราวเซอร์ (Browser) ปัจจุบันบราวเซอร์ที่ใช้บนพีซีเป็นสิ่งจำเป็นมีบริษัทผู้ผลิตให้ใช้เป็นจำนวนมาก บางบริษัทให้ใช้โดยไม่คิดเงินโดยถือเป้นซอฟท์แวร์ประเภทสาธารณะ (Public Domain) การเข้าสู่อินเตอร์เน็ตทางนี้จึงได้รับความสนใจอย่างยิ่ง เพราะเข้าหาข้อมูลหรือเข้าเยี่ยมบ้านผู้อื่นเพื่อชมภาพเสียง วีดีโอ ได้ แต่เดิมการใช้งานอินเตอร์เน็ตใช้กันเพียงการ อี-เมล์ การพูดคุยกันบนเครือข่ายด้วยตัวอักษร การโอนย้ายแฟ้มข้อมูลโดยเรียกค้นข้อมูลจากฐานข้อมูลที่ห่างไกลการส่งข่าวอ่านกลุ่มข่าวที่กระจายทั่วโลก เป็นต้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่ก็จะรับส่งข้อมูลที่เป็นข้อความ ปัจจุบันการใช้อินเตอร์เน็ตสร้างชีวิตชีวาได้มาก โดยเฉพาะ WWW ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการใช้งานอย่างมหาศาล มีการทำข้อมูลข่าวสารที่เชื่อมโยงกันแบบมัลติมีเดียที่ผสมทั้งรูปภาพ เสียงวีดีโอ ทำให้ผู้ใช้เรียกค้นเหมือนเปิดอ่านหนังสือหรือดูวีดีโอ นับว่าเป็นการสร้างรูปแบบการใช้งานที่ผู้ใช้ได้ประโยชน์และเมื่อให้แต่ละคนสร้างโฮมเพจของตนเพื่อเชื่อมโยงกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน สภาพการใช้งานอินเตอร์เน็ตก็ยิ่งขวางและสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ใช้งานมากขึ้น

อินเทอร์เน็ตต่างจากสื่ออื่นๆ อย่างไร

อินเทอร์เน็ตต่างจากสื่ออื่นๆ อย่างไร

อินเตอร์เน็ตนับว่าเป็นสื่อใหม่ที่เกิดขึ้นมาในยุคปัจจุบัน เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับสมัยที่สื่อโทรทัศน์เกิดขึ้นใหม่ๆ ในยุคนั้นก้มีสื่อประเภทวิทยุได้เกิดขึ้นและได้รับความสนใจจากผู้ฟังแล้ว ระยะที่โทรทัศน์ได้เกิดขึ้นไม่นาน ขณะนั้นก็ยังไม่ได้ตระหนักถึงความสามารถที่มีอยู่ของสื่อโทรทัศน์ได้เกินขึ้นไม่นาน ขณะนั้นก้ยังไม่ได้ตระหนักถึงความสามรถที่มีอยู่ของสื่อโทรทัศน์ว่ามีมากน้อยหรือแต่งต่างจากสื่อวิทยุอย่างไร จึงใช้สื่อโทรทัศน์ในรูปแบบเดียวกันกับสื่อวิทยุ คือ มีผู้ประกาศมาอยู่หลังไมโครโฟนเพื่อทำการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ แต่ปัจจุบันนี้ได้ตระหนักแล้วว่าอนุภาพของสื่อที่เรียกว่าโทรทัศน์สามารถนำเสนอเรื่องราวที่มีภาพความเคลื่อนไหวได้อย่างน่าสนใจ มีเสียงประกอบที่เร้าใจ ทำให้สื่อโทรทัศน์เป็นสื่อที่สามารถสร้างความรู้สึกทีี่โน้มน้าวใจต่อผู้ชมผู้ฟังได้มากกว่าวิทยุหลายเท่า จนกล่าวได้ว่าท่ามกลางระบบสังคมทุนนิยม สื่อโทรทัศน์ได้ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือที่กระตุ้นความสนใจให้ผู้คนหันมาบริโภคสิ่งของต่างๆ ที่ถูกผลิตขึ้นมาอย่างได้ผล   นับตั้งแต่เรื่องของปริมาณของเนื้อหาที่เราต้องการนำเสนอ ซึ่งที่ผ่านมาปัจจัยหลักที่เป็นตัวทำให้ปริมาณของเนื้อหาที่ต้องการนำเสนอถูกจำกัดก็คือ ต้นทุนของการซื้อเนื้อที่ หรือเวลา แต่สื่ออินเตอร์เน็ตนั้นไ่มีข้อจำกัดเหมือนดั่งเช่น สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุ หรือแม้กระทั้งโทรทัศน์ ถ้าผู้ประกอบการต้องการใส่ประวัติของบริษัท รายละเอียดสินค้า และบริการทั้งหมดของบริษัท ในทุกๆแง่มุม แม้จะมีความยาวเท่ากับสารานุกรม Britainica ก็สามารถที่จะทำได้ และมีต้นทุนที่ถือได้ว่าถูกเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณของเนื้อหาที่ระบบสามารถรองรับ นอกจากนี้ระบบยังสามารถที่จะรับรูปภาพ เสียง หรือวีดีโอ ซึ่งตรงจุดนี้ก็ยิ่งทำให้ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้รับสิ่งที่ดูแล้วตื่นตาตื่นใจไม่แพ้สื่อที่ได้เคยสัมผัสมาก่อนหน้านี้ และ Search Engine รวมทั้งข้อมูลที่จัดเก็บในรูปแบบ Hypertext ก็ยังทำให้ผู้ใช้บริการสามารถที่จะเลือกดู Web ต่างๆ ได้ตามความสนใจ จนอาจจะกล่าวได้ว่าการที่เครือข่ายอินเตอร์เน็ตมีโปรแกรมสืบค้นข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ได้ทำอินเตอร์เน็ตลดความเป็นสื่อที่ Passive ในการเข้าถึงข้อมูลลงได้เป็นอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายด้านโฆษณาผ่านสื่อวิทยุ หรือโทรทัศน์ในปัจจุบัน ก็จะเห็นได้ว่าต้องเสียค่าเช่าเวลา รวมทั้งต้องจ้างนักโฆษณามืออาชีพที่มีค่าตัวที่สูง จนทำให้ในที่สุดกระบวนการทำโฆษณาได้กลายเป็นต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นขององค์กร สำหรับควบแตกต่างอีกประการหนึ่งของสื่ออินเทอร์เน็ตที่มีไม่เหมือนสื่อประเภทอื่นๆ ก็คือ ผู้ใช้สื่อจะเป็นคนเสียค่าใช้จ่ายในการใช้อินเทอร์เน็ตในรูปแบบของเวลาที่ใช้ไป เวลาจึงกลายเป็นสิ่งที่มีค่า ทำให้ความสนใจและความจดจ่อในสาระที่นำเสนอผ่านสื่อจึงมากกว่าสื่อโทรทัศน์และวิทยุที่ผู้ชมผู้ฟังไม่ต้องเสียเงินในระหว่างที่บริโภคสื่อ   อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่จัดอยู่ในประเภท Internet Based Madia ผู้ผลิตสารที่ต้องการนำเสนอผ่านสื่อจึงอาจจะต้องใส่ใจในเรื่องของเนื้อหา และรูปแบบการนำเสนอให้มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ นอกจากนี้การที่อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่มีความสามารถในการติดต่อ 2 ทิศทาง จึงทำให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกันได้ แม้กระทั้งการซื้อขายสินค้าหรือบริการ อินเทอร์เน็ตก็ยังสามารถช่วยทำให้ผู้ใช้เกิดความสะดวกในการติดต่อในการที่จะสั่งซื้อ และสิ่งที่อินเทอร์เน็ตเป็นไปได้มากกว่าการเป้นช่องทางในการจัดจำหน่ายก็คือการเป็นช่องทางในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่สามารถช่วยสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรในราคาที่ไม่แพงเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้สื่อชนิดอื่น   รับออกแบบ Website ,Graphic Design ,Application Mobile

การประชาสัมพันธ์ สื่อออนไลน์

การประชาสัมพันธ์ สื่อออนไลน์

อินเตอร์เน็ตที่ใช้ทำการประชาสัมพันธ์ ส่วนใหญ่ผ่านทาง E-mail หรือระบบจดหมายอีเล็กทรอนิคส์และระบบข้อมูลจาก World Wide Web (www) โดยการจัดทำเป็น Website ของแต่ละแห่งให้ผู้ดูเปิดเข้าไปดูและติดตามข้อมูลต่างๆได้

ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ตในด้านต่างๆมีดังนี้

ในด้านการศึกษา ผู้ใช้จะต่อเข้าอินเตอร์เน็ตเพื่อค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการจากที่ต่างๆ ซึ่งอินเตอร์เน็ตจะทำหน้าที่เหมือนห้องสมุดขนานยักษ์ ส่งข้อมูลที่เราต้องการมาให้ถึงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์วนเวลาไม่กี่วินาที   จากแหล่งข้อมูลทั่วโลกทั้งข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม ศิลปกรรม สังคมศาสตร์ กฎหมายและอื่นๆ สถานศึกษาต่างๆ ทั้งระดับมหาวิทยาลัย วิทยาลัย สถาบันวิจัยและบริการ จึงมักจะนิยมจัดทำ Wedsite ขึ้นเพื่อเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับสถาบัน เช่น ข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ หลักสูตร นักศึกษา การเรียนการสอน ฯลฯ ในด้านธุรกิจและการค้า อินเตอร์เน็ตใช้ประชาสัมพันธ์และโฆษณา ข้อมูลของบริษัทต่างๆ ผ่านทาง WEDSITE ต่างๆ เช่นกัน ข้อมูลมีทั้งด้านแนะนำต้วบริษัท สินค้าและบริการต่างๆ รวมถึงการซื้อขายสินค้าผ่านคอมพิวเตอร์หรือที่เรียกว่า Teleshopping โดยเลือกดูสินค้าพร้อมทั้งคุณสมบัติต่างๆ ผ่านจอคอมพิวเตอร์แล้วสั่งซื้อและจ่ายเงิน ซึ่งสะดวกรวดเร็ว บริษัทต่างๆ จึงมีการประชาสัมพันธ์และลงโฆษณาขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตกันมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ใช้ที่เป็นบริษัทหรือองค์กรต่างๆ ก็สามารถเปิดให้บริการและสนับสนุนลูกค้าของตนผ่านอินเตอร์เน็ตได้ เช่น การตอบคำถามหรือข้อสงสัยต่างๆ ให้คำแนะนำ รวมถึงการให้ข่าวสารใหม่ๆ แก่ผู็สนใจได้ ในด้านสื่อมวลชนและบันเทิง หนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ วารสาร สถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุ จะจัดทำ Wedsite ให้ผู้ใช้เปิดเข้าไปดูรายการต่างๆ ข่าวสารทั่วไปขององค์กรรวมถึงแม้การถ่ายทอดรายการสด รายการข่าวประจำวัน เช่น ข่าวช่วง 20.00 น ของสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 เผยแพร่ออกทางอินเตอร์เน็ตทั่วโลก ผู้ใช้ยังสามารถเลือกอ่นวารสารต่างๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตหรือที่เรียกว่า magazing online รวมถึงหนังสือพิมพ์และวารสารอื่นๆ   ทั่วโลกขณะนี้มีบริการรับสมัครสมาชิกวารสารผ่านอินเตอร์เน็ตแล้ว และให้สมาชิกเรียกดูวารสารได้ด้วย ผู้ผลิตวีดีโอและภาพยนตร์ก็มีการลงโฆษณาและตัวอย่างหนังใหม่ๆ ในอินเตอร์เน็ตให้ผู้สนใจก็อปปี้ไฟล์ที่เป็นตัวอย่างหนัง ซึ่งเป็นภาพเคลื่อนไหวและเสียงไปดูได้ด้วย นอกเหนือจากประโยชน์ต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว ผู้ผลิตสินค้าและบริการต่างๆ ยังใช้ประโยชน์อินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางสำหรับการเผยแพร่ข้อมูลของตนเองได้ในวงกว้างด้วยค่าใช้จ่ายต่ำ แถมยังเข้าถึงกลุ่มคนที่ใช้งานอินเตอร์เน็ต (ซึ่งนับได้ว่าเป็น “หัวกะทิ” ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่น่าจะมีกำลังซื้อมากพอสมควร) ได้โดยตรง การประชาสัมพันธ์เผ่ยแพร่เรื่องต่างๆ ทางอินเตอร์เน็ตจึงขยายตัวอย่างรวดเร็ว รวมทั้งกลายเป็นช่องทางหรือเวทีในการแสดงความคิดเห็น ถกเถียงแลกเปลี่ยนทัศนะในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ฯลฯ ที่สามารถตอบโต้กันได้ชนิดทันต่อเหตุการณ์หรือความเปลี่ยนแปลง ดังนั้นประโยชน์ต่างๆของการประชาสัมพันธ์ผ่านทางอินเตอร์เน็ตจึงมีมากและแตกต่างกันไปตามการใช่ในด้านต่างๆ แม้ว่าในประเทศไทยจะเพิ่งเริ่มมีมากขึ้น แต่ก็เชื่อแน่ว่าจะพัฒนาต่อไปอีกมากโดนไม่หยุดยั้งเมื่อเทียบกับสื่ออื่นๆ   รับออกแบบ Website ออกแบบ Graphic Design ออกแบบ Application

ข้อดีของ การใช้สื่อประชาสัมพันธ์ออนไลน์

ข้อดีของ การใช้สื่อประชาสัมพันธ์ออนไลน์

  1. สามารถเผยแพร่ข้อมูลเข้าถึงคนจำนวนมากทั่วโลก ใช้การสื่อสารได้ทั้งแบบตัวต่อตัว และการสื่อสารแบบ Machine interactivity communication ผู้ใช้จึงหันมาใช้สื่อตัวนี้มากขึ้น
  2. อินเตอร์เน็ตให้ข้อมูลที่เป็นจริงได้มากกว่าและมีคุณภาพกว่าสื่อทั่วๆไป ทั้งรูปแบบ สี เสียง และเคลื่อนไหวได้โดย
  3. ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจะมีบทบาทสำคัญในขั้นตอนการใช้สื่อมากกว่าสื่อทั้่วๆไป โดยผู้ใช้เป็นผู้เลือกที่จะดู Website ที่ตนสนใจได้นานและละเอียดเท่าที่ต้องการ โดยไม่จำกัดเวลา ซึ่งแตกต่างจากสื่ออื่นๆ
  4. อินเตอร์เน็ตเป็นสื่อที่มีราคาถูกกว่าสื่อทั่วๆไป (เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายที่ว่าถูกกว่าในแง่ของ เนื้อหา ในการเผยแพร่ และความถี่ในการเผยแพร่ ผ่านสื่ออื่นๆ แล้วจะแพง ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการจัดทำ Wedsite และจัดทำข้อมูลให้ทันสมัยไม่ได้แพงมากนัก)
  5. อินเตอร์เน็ตเป็นสื่อที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงได้ดี
  6. ภาพลักษณ์ของบริษัทดูเป็นหนึ่ง ทางด้านเทคโนโลยีและความทันสมัย
  7. อินเตอร์เน็ตสามารถรับ feedback จากกลุ่มเป้าหมายได้ภายในเวลารวดเร็ว และสามารถแสดงสถิติและประเมินผลของผู้ที่เข้ามาใช้งานอย่างละเอียด มีข้อมูลแสดงเป็นสถิติด้วยว่าแต่ละวันมีผู้เข้ามาดูจำนวนเท่าไร
 

แนวคิดในการใช้สื่อออนไลน์ ประชาสัมพันธ์

แนวคิดในการใช้สื่อออนไลน์ ประชาสัมพันธ์

เมื่อตกลงใจที่จะเลือกสื่ออินเตอร์ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลขององค์กร ขั้นตอนสำคัญที่ควรตระหนักในการดำเนินการจัดทำประชาสัมพันธ์บนอินเตอร์เน็ต ได้แก่  
  1. ศึกษาวัตถุประสงค์ของงาน นั้นให้เข้าใจชั้นเจนว่า มีวัตถุที่จะจัดทำเพื่อ เผลแพร่ข้อมูลขององค์กรที่ทันสมัย เจาะลึกทุกๆด้านหรือเพื่อชักจูงใจ แกใขความเข้าใจผิดต่างๆ เกี่ยวกับองค์กรที่เกิดขึ้นในระยะนั้น
  2. กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนว่า เว็ปไซต์ ของเราอยากให้ใครเปิดเข้ามาดูบ้าง เป็นกลุ่มนักศึกษา นักธุรกิจ ฯลฯ
  3. กำหนดกลยุทธ์ในการทำประชาสัมพันธ์บนอินเตอร์เน็ต เนื่องจากการประชาสัมพันธ์ต้องใช้ผู้ที่มีความชำนาญในการจัดทำและออกแบบ โฮมเพจ ต่างๆเป็นผู้จัดทำให้ โดยค่าบริการและปรับปรุงข้อมูลเป็นระยะๆ นั้นเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาในการกำหนดงบประมาณในการจัดทำให้เหมาะสม
หน้าที่ของนักประชาสัมพันธ์ ที่สำคัญคือ การตระเตรียมข้อมูลที่ถูกต้อง ทันสมัยทั้งเสียงและภาพเผยแพร่ในเว็ปไซต์ และการติดต่อทำความเข้าใจประสานงานที่ดีระหว่างบริษัทกับบริษัทที่รับทำโฮมเพจให้ ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ การประชาสัมพันธ์ชวนเชิญให้ผู้สนใจรู้จัก เว็ปไซต์ ของบริษัทเรา และเปิดเข้ามาดูเป็นประจำ เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์ การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์บนอินเตอร์เน็ต   รับออกแบบ Website    

ปัจจัยสำคัญการใช้สื่อออนไลน์ประชาสัมพันธ์

ปัจจัยสำคัญการใช้สื่อออนไลน์ประชาสัมพันธ์

ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การจัดทำประชาสัมพันธ์บนอินเตอร์เน็ตประสบความสำเร็จ ในการดำเนินการจัดทำประชาสัมพันธ์บนอินเตอร์เน็ตให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่   – ผู้บริการระดับสูงขององค์กรให้ความสำคัญกับการจัดทำประชาสัมพันธ์ รู้จักสื่อชนิดนี้ และให้ความร่วมมือดี – การร่วมมือทำงานกันเป็นทีม ระหว่างฝ่ายประชาสัมพันธ์กับฝ่ายเทคโนโลยี และฝ่ายตลาด  

องค์กรจะเริ่มต้นทำประชาสัมพันธ์บนอินเตอร์เน็ตอย่างไร

ผู้ที่เกี่ยวข้องในองค์กร ทั้งผู้บริหาร นักประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ควรต้องพยายามสร้างความเข้าใจให้ถ่องแท้ในเรื่องพื้นฐานของระบบอินเตอร์เน็ต จากนั้นอาจจะถามตัวเองว่า ต้องการทำประชาสัมพันธ์บนอินเตอร์เน็ตไปทำไม จากนั้นก็สมัครเข้าเป็นสมาชิกกับผู้ให้บริการรายใดรายหนึ่ง หรืออาจจะไม่เป็นสมาชิกก็ได้ (ให้ผู้ให้บริการที่มีอยู่เป็นผู้สร้างโฮมเพจให้แล้วนำเข้าไปใส่ในเครือข่ายของผู้ให้บริการรายนั้นๆ) ซึ่งอัตราค่าบริการ มีตั้งแต่คิดเป็นหน้า และคิดเป็นความจุ ราคาจึงแตกต่างกันไป หน้าแรกของโฮมเพจควรเป็นโลโก้หรือสัญลักษณ์ของบริษัท พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ในการสั่งการ เช่น สั่งของ ดูข้อมูลต่อไป พิมพ์ เซฟข้อมูล   หน้าต่อไปก็คือ ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่แต่ละบริษัทจะใส่ลงไป จะกี่หน้ากี่รูปหรือเสียงจะเป็นอย่างไรก็ระบุตามความพอใจ นักประชาสัมพันธ์จะสร้างและออกแบบโฮมเพจ ทำอาร์ตเวิร์คทั้งแบบข้อมูลและรูปภาพด้วยตนเองก็ได้ (กรณีสามารถทำได้) อีกทั้งสามารถแก้ไขโฮมเพจ ตนเองได้เองบนพื้นที่ที่กำหนดให้ เครื่องมือหลักของนักประชาสัมพันธ์ในการสร้างคือ เว็บไซต์ ซึ่งจะต้องระลึกถึงว่าบริษัทนั้นๆ จะต้องมีข้อมูลที่ทันสมัย ข้อมูลเบื้องหลังของบริษัทและรูปภาพจะต้องปรากฎบนเว็บไซต์ และนอกจากนี้ตัวไซต์จะมีการลิงค์ (link) กับ press center, media center, press room, press release หรืออื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหน้าแรกจะต้องบรรจุภาพรวมของผลิตภัณฑ์ที่สามารถลิงค์กับ press release หรือกรณีศึกษา สำหรับหน้าแรกจะต้องมี head lines วันที่ผลิต หรืออื่นๆที่เกี่ยวข้องกับความคิดเห็น นอกจากนี้ยังมีไอคอน (icon) ที่เป็นเครื่องชี้ถึงวัสดุใหม่ๆ ด้วย ใน head line แต่ละอันจะต้องสัมพนธ์กับเรื่องด้วย

เทคนิคการเขียน เนื้อหาในเว็บไซต์ Content Marketing

เทคนิคการเขียน เนื้อหาในเว็บไซต์ Content Marketing

งานของนักประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวกับสื่ออินเตอร์เน็ตนั้นอาจจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องในการพัฒนาเนื้อหาและแนวคิดของ โฮมเพจและเว็บไซต์ด้วย ต้องพยายามปรับปรุงวิธีการเขียน หาเทคนิคและเรื่องราวที่เหมาะสมสำหรับสื่อชนิดนี้ ดังนั้นการที่จะจัดทำเว็บไซต์จึงมีหลักการ 4 ประการสำคัญของการสื่อสารด้วยอินเตอร์เน็ตได้แก่ การกำหนดแนวทางของเว็บไซต์ หัวข้อเรื่องที่ครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด การเชื่อมโยงหรือการลิงค์ไปยังข้อมูลอื่น และสไตล์การเขียน  
  1. การกำหนดแนวทางของเว็บไซต์ (providing direction) ของเว็บไซต์นั้นๆว่าจะเน้นให้ข้อมูลอย่างไร มีเครื่องมืออะไรในเว็บไซต์ที่จะทำให้ผู้เข้าชมจดจำได้ ใช้ได้สะดวก และสามารถเข้ามาค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้
  2. หัวข้อเรื่องที่ครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด (the topics to be covered) ในเว็บไซต์ควรจะประกอบเนื้อหาในเรื่องใดบ้าง มีคำแนะนำดังนี้
2.1 ข้อมูลของหน่วยงาน 2.2 ข้อมูลสั้นๆและมีจุดเด่น 2.3 ข่าวและจดหมายข่าว 2.4 ข้อมูลด้านการเงินของหน่วยงาน 2.5 ข้อมูลชี้แจงในกรณีเกิดเรื่องฉุกเฉิน 2.6 สารคดีเรื่องเล่าต่างๆ 2.7 รายงานจากการวิจัย
  1. การเชื่อมโยงหรือการลิงค์ (links) ไปยังข้อมูลอื่นๆ เว็บไซต์ที่ดีควรกำหนดให้ชัดเจนว่าการลิงค์ไปยังข้อมูลอื่นๆ เว็บไซต์อื่นๆที่มีประโยชน์และเกี่ยวข้องจะทำให้เว็บไซต์น่าสนใจมากขึ้น
  2. สไตล์หรือลีลาการเขียนเว็บไซต์ (Web site style) การเขียนบนเว็บไซต์มีหลักการทั่วไปเหมือนการเขียนในสื่ออื่นๆ เช่น อ่านง่าย เรียบเรียงดี ให้หัวเรื่องที่ชัดเจน การวางรูปแบบที่จะช่วยให้เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น ลีลาในการเขียนสำคัญจึงมีดังนี้
4.1 มีความชัดเจนในแนวคิดและวัตถุประสงค์ของงาน 4.2 โครงสร้างต้องชัดเจนและง่ายในการที่จะเปิดเข้าไปค้นข้อมูลศึกษา 4.3 เนื้อหาควรกำหนดให้ตรงกับความต้องการและความสนใจกับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ 4.4 เนื้อหาควรตรงกับระดับการศึกษา และความเข้าใจคำศัพท์ต่างๆ ของผู้เข้ามาเยี่ยมชม 4.5 เนื้อหาควรชี้แนะแนวทางค้นข้อมูลอื่นๆ การเน้นจุดเด่นต่างๆ การวางโครงสร้างส่วนต่างๆของเว็บไซต์จำนวนหน้า ย่อหน้า และหัวข้อต่างๆ ให้เกี่ยวเนื่องกัน กระชับและเน้นแนวคิดสำคัญของเรื่องให้ชัดเจน   รับออกแบบ Website

การประชาสัมพันธ์ในสื่อดิจิทัล

การประชาสัมพันธ์ในสื่อดิจิทัล

ในยุคสื่อดิจิทัล มีเครื่องมือสำคัญที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการประชาสัมพันธ์ อย่างน่าสนใจ ดังนี้

ความหมายของการประชาสัมพันธ์ คือ การวางแผนและการดำเนินการประชาสัมพันธ์ขององค์กรทั้งการ ประชาสัมพันธ์ ภายในองค์กรและภายนอกองค์กรเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการประชาสัมพันธ์ที่องค์กร กำหนดไว้ผ่านช่องการการประชาสัมพันธ์ที่เหมาะสม วัตถุประสงค์ของการประชาสัมพันธ์ : เพื่อสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจในองค์กร, เพื่อสร้าง ความเข้าใจอันดีระหว่างองค์กรกับประชาชน,เพื่อตลกลงรับทราบในประชามติร่วม,เพื่อสร้างความชื่นชอบ, เพื่ออำนวยความสะดวกในการสื่อสารประเภทอื่น บทบาทหน้าที่ของนักประชาสัมพันธ์ : ให้คำแนะนำ ที่ปรึกษา,ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงาน,ทำหน้า ที่วิเคราะห์ ศึกษาวิจัยปัญหาสังคม,ทำหน้าที่กำหนเชดกิจกรรม และดำเนินงานด้านการสื่อสาร แนวคิดทฤษฎี SMCR. (เบอร์โล) S : ผู้ส่งสาร ,M สาร, C : ช่องทาง และ R : ผู้รับสาร ความหมายของสื่อใหม่ : คือสื่อที่มีผู้ใช้เป็นผู้สื่อสาร เขียนหรือเล่าประสบการณ์ ลักษณะของสื่อใหม่ : เป็นสื่อที่แพร่กระจายด้วยปฎิสัมพันธ์ทางสังคม, เป็นสื่อที่เปลี่ยนจากสื่อเก่า ที่แพร่กระจายทางเดียว มาสู่ลักษณะ หลายทาง, เป็นสื่อที่เปลี่ยนจากผู้บริโภคเนื้อหามาเป็นผู้ผลิตเนื้อหา, เลือกดปิดรับช่าวสารเป็นไปตามความต้องการ ประเภทของสื่อใหม่ แบ่งได้ตามนี้ คือ
  1. Web Blog : เป็นรูปแบบเว็บไซต์ชนิดหนึ่ง ซึ่งถูกเขียนขึ้นตามลำดับเวลา
แนวคิดในการใช้สื่อ ประเภท Web Blog : องค์กร หรือสินค้าควรมีแฟนติดตามในระยะหนึ่ง, องค์กรหรือสินค้า ควรสร้างจุดเด่นจากสัญลักษณ์ในตัวสินค้า, ลักษณะงานเขียนควรสร้างอารมณ์ แรงจูงใจ กระตุ้นการซื้อ ภักดีต่อตัวสินค้า
  1. Youtube : เป็นเครื่องมือสื่อสารในรูปแบบ Multi Media นำเสนอในรูปแบบ Video นอกจากสื่อสาร
ผ่านสื่อประเภทดังกล่าวแล้ว องค์กรยังสามารถสมัครสมาชิก เพื่อสร้างช่องทางให้สมาชิกติดตามได้ ตลอดจนการ แจ้งเตือนผ่าน Email ต่างๆ ข้อคิด : เนื้อหา ควรไม่เกิน 15-30 วินาที,อย่าทำ คลิปประชาสัมพันธ์ให้เหมือนโฆษณา
  1. Facebook : สื่อ Social ใหญ่ที่มีผู้เล่นสูงสุดในโลก โดยเฉพาะคนไทย มี 3 รูปแบบ ได้แก่ – Profile :
เป็นหน้าบุคคลทั่วไป ซึ่งจะมีเมนูให้เอาไว้ Link เขียนคำติชม แชร์ ข้อมูลส่วนบุคคล – Fan Page : เป็นหน้าที่ เกี่ยวข้องกับธุรกิจโดยตรง สามารถใช้หน้านี้ทำการประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่างๆ หรือร่วมสนุกกิจกรรมโครงการ – Group : มีความแตกต่างจากหน้า Fan Page เป็นกลุ่มที่รวบรวมความสนใจของคนประเภทเดียวกัน
  1. Twitter : ไมโครบล็อค Micro Blogging บล๊อคขนาดเล็กที่มีลักษณะข้อความสั้นไม่เกิน 140
ตัวอักษร และสามารถส่งข้อความสั้นๆ ไปยังโทรศัพท์มือถือโดยไม่ต้อต่ออินเทอร์เนต ฉะนั้นมันจึงใช้สื่อสารแบบ Real-times สำหรับการนำ Twitter มาใช้ในการดำเนินงานประชาสัมพันธ์อย่างแรก ควรจะตั้งชื่อจดจำง่าย เพื่อง่ายต่อการรับรู้ ใช้ Profile เสทอนหน้าตา หรือภาพลักษณ์องค์กร เนื้อหาควรเป็นลักษณะแบ่งบัน
  1. Line คือ แอพลิเคชั่นที่ผสมผสานการบริการ Messaging และ Voice Over IP จึงทำให้ เกิดเป็น
Application ที่สามารถแชท สร้างกลุ่ม ส่งข้อความ Post รูป ต่างๆตลอดจนใช้เป็นโทรศัพท์ การใช้ lne ในการประชาสัมพันธ์ แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ สำคัญ คือ – การประชาสัมพันธ์ผ่าน Line Official Account : ใช้กลยุทธ์ให้ผู้ใช้ Add Friend กับองค์กร, องค์กรสื่อสารข้อมูลผ่านสมาชิก, องค์กรสามารถใช้เครื่องมือ Broadcast – Line Sponsored Sticker : เปิดโอกาสให้องค์กรมีรูปแบบ Sticker เป็นของตนเอง, สามารถประชาสัมพันธ์ผ่าน ตัวอักษร ภาพการ์ตูน ทั้งยังส่งเสริมภาพลักษณ์ในรูปแบบเข้าถึงง่าย ขององค์กร
  1. การใช้ QR-Code : QR code คือ code 2 มิติ ที่ประกอบไปด้วยมอดูลสีดำเรียงกันในลักษณะกรอบ
สีดำ ที่สามารถอ่าได้จากเครื่องมืออ่าน QR-Code จากกล้องแสกนในมือถือ ที่ถอดข้อมูลจากโค้ดแล้วแสงผลใน รูปแบบภาพ Video และ Link เข้าสู่ออนไลน์ การนำไปใช้ในงานประชาสัมพันธ์ : ใส่ QR-Code ไว้ในนามบัตร, พิมพ์ QR-Code ไว้ในจุกประชาสัมพันธ์กับงาน off-line ทั้งนี้ เพราะ off-line แสดงข้อมูลเชิงลึกไม่เพียงพอ
  1. Location Base Services : LBS. เป็นบริการรูปแบบใหม่ ช่วยให้เราสามารถแชร์ข้อมูลพื้นที่ ที่เราอยู่
กับผู้ใช้งานทั่วโลกโดยผ่านการระบุตำแหน่ง วิธิการใช้งาน LBS. ในงานประชาสัมพันธ์ : การใช้ Code QR ร่วมกับ LBS. เพื่อตรวจสอบว่าลูกค้ามาร้านเราจริง เพื่อสร้างกิจกรรมพิเศษ ณ จุดบริการ เป็นต้น

ตามไปดูนวัตกรรม “แอพฯ เกมสามมิติ”

ตามไปดูนวัตกรรม "แอพฯ เกมสามมิติ

ตามไปดูนวัตกรรม “แอพฯ เกมสามมิติ” Power Ranger: Legacy War อีกหนึ่งเกมใหม่มาแรงที่มีดีเรื่องภาพสามมิติสุดสวยงาม และการเล่นที่ง่ายแสนง่าย พบความจุดเด่นและความน่าสนใจที่คุณต้องห้ามพลาดที่นี่ Power Ranger: Legacy War เกมสามมิติสุดสมจริงในธีม 5 สี

หลังจากเมื่อไม่นานมานี้ที่ได้มีภาพยนตร์เกี่ยวกับขบวนการห้าสี พาวเวอร์เรนเจอร์ เข้าฉายอยู่ในโรงภาพยนตร์ ทำให้เกิดเป็นกระแสรำลึกความหลังสำหรับวัยรุ่นในยุคนี้ที่โตมากับฮีโร่เหล่านี้เป็นอย่างมาก และด้วยกระแสที่ว่านี้เองทำให้ทางผู้ถือสิขสิทธิ์ของพาวเวอร์เรนเจอร์ได้ตัดสินใจปล่อยเกมที่เกี่ยวข้องกับขบวนการห้าสีมาพร้อมๆกัน โดยเกมที่ว่านั้นก็คือ Power Ranger : Legacy War   เกม Power Ranger : Legacy War ก็มีรูปแบบการเล่นในแนวของการต่อสู้ระหว่างผู้เล่นแบบออนไลน์ ซึ่งถือว่าเป็นรูปแบบที่แปลกใหม่ และต่างออกไปจากเกมมือถือในทุกวันนี้ค่อนข้างมาก เพราะตัวเกมไม่เน้นเรื่องราว แต่จะโฟกัสไปที่ความทรงจำเก่าๆ ที่ผู้เล่นคิดถึง ด้วยการนำเอาบรรดาตัวละครในขบวนการห้าสีตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน มาให้ผู้เล่นได้เลือกเป็นตัวละครที่เราจะสวมบทบาทนำไปต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นๆ นั่นเอง   ในปัจจุบันนั้น Power Ranger : Legacy War เปิดให้เล่นฟรีโดยผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดได้ที่แอพสโตร์ และเพลย์สโตร์ ของทั้งสองระบบปฏิบัติการ ไอโอเอสและแอนดรอย์ ซึ่งหากใครที่อยากจะสนับสนุนทางผู้พัฒนาก็สามารถจ่ายเงินเพิ่มในเกมเพื่อลุ้นรับไอเทม รวมถึงตัวละครใหม่ๆ ได้ ส่วนใครที่มองหาเกมบนมือถือที่สามารถลุ้นเงินรางวัลได้ด้วย ขอแนะนำให้เข้าไปร่วมสนุกกันได้ที่ Categories Education

ChatBot Facebook สร้างมูลค่าให้ธุรกิจ

ChatBot Facebook สร้างมูลค่าให้ธุรกิจ

รับออกแบบ สร้างระบบ Chatbot ให้กับ Facebook เพื่อสร้างมูลค้าให้ธุรกิจออนไลน์ E-Commerce

สร้าง chat room ให้ผู้ใช้คุยกับลูกค้าแบบอัตโนมัต

ให้ Bot ทำงานแทนคุณแบบ สำหรับงานขาย และบริการเบื้องต้น เช่น จองที่พัก และร้านอาหาร